
มาเลเซียได้กำหนดภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (antidumping duties) สำหรับการนำเข้าเหล็กเคลือบสังกะสี (galvanized steel coils and sheets) จากจีน เกาหลีใต้ และเวียดนาม โดย Ministry of Investment, Trade, and Industry (MITI) ประกาศเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม
รัฐบาลระบุว่า อุตสาหกรรมภายในประเทศของมาเลเซียได้รับ "ความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญ" จากการนำเข้าเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีซึ่งมีราคาต่ำกว่ามูลค่าปกติ MITI กล่าว
เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี (Galvanized steel) หมายถึง ผลิตภัณฑ์เหล็ก flat-rolled products ที่ทำจากเหล็กเจือหรือไม่เจือ (alloy or non-alloy steel) ที่ผ่านการชุบหรือเคลือบด้วยสังกะสี โดยใช้กระบวนการจุ่มร้อน (hot-dip process)
มาเลเซียกำหนดอัตราภาษีนำเข้าที่ 7.72% ต่อบริษัท Shougang Jingtang United Iron & Steel Co. Ltd. ซึ่งมีฐานอยู่ในจีน และ 26.80% ต่อผู้ส่งออกรายอื่นๆ ของจีน
ผู้ผลิตของเกาหลีใต้ Hyundai Steel Co. และ KG Dongbu Steel Co. Ltd. กำหนดอัตราภาษีที่5.61% และ 13.82% ตามลำดับ มาเลเซียยังเรียกเก็บภาษี 2.21% จาก POSCO และ 31.47% จากผู้ผลิตรายอื่นๆ ในเกาหลีใต้ด้วย
มาเลเซียเรียกเก็บภาษีนำเข้า 4.76% จาก China Steel และ Nippon Steel Vietnam JSC และเรียกเก็บภาษีนำเข้า 9.91% จาก Southern Steel Sheet Co. Ltd. ซึ่งมีฐานอยู่ในเวียดนาม
สำหรับผู้ผลิตชาวเวียดนามรายอื่นๆ ที่ถูกเรียกเก็บภาษี ได้แก่ Tay Nam Steel Manufacturing & Trading Co. Ltd. และ TVP Steel JSC ซึ่งแต่ละรายต้องเผชิญกับภาษี 42.58%
บริษัท Tan Phuoc Khanh Trading and Manufacturing Coil Steel JSC ได้ถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า 48.05% ในขณะที่ผู้ส่งออกชาวเวียดนามรายอื่นๆ ทั้งหมดถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าที่ 57.90%
ภาษีที่ดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน และจะคงอยู่ต่อไปอีก 5 ปี จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2030 ตามที่ MITI ระบุ